การเป็นพนักงานไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ล้วนมีกฎหมายแรงงานคุ้มครอง ตั้งแต่เริ่มเข้าทำงาน ไปจนถึงวันที่สิ้นสุดการจ้างงาน รวมถึงกรณีที่นายจ้างเชิญออก หรือต้องเลิกจ้างกลางคัน ซึ่งหลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ในสถานการณ์แบบนี้ทางกฎหมาย ได้กำหนดสิทธิการได้รับ เงินชดเชยเลิกจ้าง ไว้อย่างชัดเจน
ดังนั้น เพื่อให้ลูกจ้างได้รับความเป็นธรรม และไม่เสียสิทธิไปโดยไม่รู้ตัว บทความนี้ Cloud-TA จะพาคุณไปทำความรู้จักกับสิทธิเงินชดเชย กรณีถูกเลิกจ้างกลางคัน ว่าครอบคลุมถึงกรณีไหนบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย
เงินชดเชยเลิกจ้าง คืออะไร ?
เงินชดเชยเลิกจ้าง คือ สิทธิที่กฎหมายแรงงานกำหนดไว้ ในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 118 เพื่อเป็นการช่วยเหลือ และคุ้มครองพนักงาน หรือลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง โดยที่ไม่ได้มีความผิดร้ายแรง ลูกจ้างจึงมีสิทธิได้รับเงินชดเชยจากนายจ้าง ตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ จำนวนเงินชดเชยที่ลูกจ้างจะได้รับนั้น ขึ้นอยู่กับอายุงาน และอัตราค่าจ้างสุดท้ายก่อนถูกเลิกจ้าง โดยกฎหมายกำหนดอัตราไว้ชัดเจน เพื่อให้ลูกจ้างได้รับความเป็นธรรม และลดความลำบากในช่วงเปลี่ยนผ่าน ระหว่างหางานใหม่ ดังนี้
- ทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ไม่ถึง 1 ปี ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน
- ทำงานติดต่อกันครบ 1 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 90 วัน
- ทำงานติดต่อกันครบ 3 ปี แต่ไม่ถึง 6 ปี ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน
- ทำงานติดต่อกันครบ 6 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 240 วัน
- ทำงานติดต่อกันครบ 10 ปี ขึ้นไป แต่ไม่ถึง 20 ปี ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 300 วัน
- ทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขึ้นไป ได้รับค่าชดเชย เท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 400 วัน

ไม่ให้พลาดสิทธิ! เงินชดเชย ครอบคลุมถึงกรณีไหนบ้าง ?
การเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดของลูกจ้าง หลายคนอาจยังสับสนว่ากรณีไหนบ้าง ที่กฎหมายครอบคลุม โดยการทำความเข้าใจสิทธิเงินชดเชยจึงเป็นเรื่องสำคัญ และลดการเสียเวลาในการฟ้องร้องในภายหลัง โดยหลักแบ่งออกเป็น 4 กรณี ดังนี้
- ปรับโครงสร้าง
ในกรณีแรก นายจ้างอาจมีความจำเป็น ต้องปรับโครงสร้างองค์กร หรือลดจำนวนพนักงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หรือลดต้นทุน เนื่องจาก การนำเทคโนโลยี และเครื่องจักรเข้ามาทดแทนแรงงานเดิม
กรณีนี้นายจ้างต้องแจ้งให้ลูกจ้าง ที่ได้รับผลกระทบทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน หากไม่สามารถแจ้งได้ตามกำหนด นายจ้างจะต้องจ่ายค่าชดเชยพิเศษ หรือที่มักเรียกว่า “ค่าตกใจ” ให้แก่ลูกจ้างเพิ่มอีกหนึ่งงวดเท่ากับค่าจ้าง 60 วัน นอกเหนือจากเงินชดเชย ตามที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนด
- ย้ายสถานประกอบกิจการ
ในกรณีที่นายจ้าง ต้องย้ายสถานประกอบการ ไปยังพื้นที่ใหม่ที่อาจอยู่ห่างไกลจากที่เดิม ทำให้ลูกจ้างได้รับผลกระทบ เช่น การเดินทางที่ไม่สะดวก หรือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น กฎหมายให้สิทธิแก่ลูกจ้างในการ ปฏิเสธที่จะย้ายตามไป และสามารถบอกเลิกสัญญาจ้างได้ โดยยังมีสิทธิได้รับเงินชดเชยตามปกติ
นอกจากนี้ ยังได้รับเงินชดเชยพิเศษเพิ่มเติม ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของเงินชดเชย โดยนายจ้างมีหน้าที่ต้องแจ้งให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า 30 วัน
- การเกษียณอายุ
การเกษียณอายุ ถือเป็นการเลิกจ้างตามกฎหมายแรงงาน เนื่องจาก ลูกจ้างมีอายุเกินกว่าที่ข้อกำหนดไว้ ไม่ได้เป็นการลาออกโดยสมัครใจ ดังนั้น เมื่อครบเกณฑ์อายุ 60 ปีบริบูรณ์ ลูกจ้างมีสิทธิใช้แจ้งเหตุการเกษียณอายุได้ และนายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าชดเชยเลิกจ้าง เช่นเดียวกับกรณีเลิกจ้างทั่วไป
- ลาป่วยบ่อยครั้ง
แม้ว่าลูกจ้างจะมีสิทธิในการลาป่วย ตามที่กฎหมายกำหนด แต่หากลูกจ้างมีการลาป่วยบ่อยครั้ง หรือมีลักษณะการหยุดงานที่ทำให้การดำเนินงานของนายจ้างเสียหายหรือล่าช้า นายจ้างสามารถใช้สิทธิเลิกจ้างได้
อย่างไรก็ตาม นายจ้างยังคงมีหน้าที่ต้องจ่าย เงินชดเชยเลิกจ้าง ตามเกณฑ์ที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนด เพื่อคุ้มครองสิทธิของลูกจ้าง เนื่องจาก กรณีนี้ไม่เป็นความผิดร้ายแรงของลูกจ้าง การจ่ายชดเชยจึงยังคงมีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ สิทธิชดเชยเลิกจ้างไม่ใช่เพียงเรื่องที่พนักงาน หรือลูกจ้างควรรู้เท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ฝ่ายบุคคล (HR) และผู้ประกอบการต้องเข้าใจ เพื่อลดความเสี่ยงทางกฎหมาย และปัญหาที่อาจตามมา
โดยปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยจัดการเรื่องนี้ได้ง่ายขึ้นกับ Cloud-TA ระบบ Time & Attendance System ที่ช่วยบันทึกเวลาในการทำงานอย่างแม่นยำ โดยข้อมูลเหล่านี้ สามารถนำไปใช้คำนวณเงินชดเชยได้อย่างถูกต้อง โปร่งใส และลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

ตอบคำถาม แล้วกรณีใด นายจ้างไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยเลิกจ้าง
แม้ว่าการชดเชยเลิกจ้าง จะเป็นสิทธิที่กฎหมายแรงงาน กำหนดขึ้นเพื่อคุ้มครองลูกจ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับในทุกกรณี เพราะตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 119 ได้กำหนดข้อยกเว้นไว้ว่า หากลูกจ้างกระทำผิดเข้าข่ายเงื่อนไขต่อไปนี้ นายจ้างสามารถเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย
- ทุจริตต่อหน้าที่
การทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดทางอาญาโดยเจตนา เช่น การปลอมแปลงเอกสาร การยักยอกทรัพย์สิน หรือการฉ้อโกง ถือเป็นความผิดร้ายแรง นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้ทันที โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
- ละทิ้งการทำงานนาน 3 วัน ติดต่อกัน
การละทิ้งหน้าที่การทำงานติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และไม่ได้มีการแจ้งลาที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่
- ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาสูงสุด
ลูกจ้างที่ถูกศาลพิพากษา ให้จำคุกในความผิดอาญา นายจ้างสามารถเลิกจ้างได้ เนื่องจาก อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีความผิดโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ ที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง
- จงใจทำให้ได้รับความเสียหาย
หากพนักงานจงใจสร้างความเสียหายแก่นายจ้าง ไม่ว่าจะเป็น ทรัพย์สิน ชื่อเสียง หรือการนำข้อมูลสำคัญไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
- ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน
กรณีที่ลูกจ้างฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งของนายจ้าง แม้จะได้รับการตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว แต่ยังคงทำผิดซ้ำ ๆ ถือเป็นเหตุอันสมควรในการเลิกจ้าง โดยไม่จ่ายค่าชดเชย ทั้งนี้ หากเป็นความผิดร้ายแรง นายจ้างสามารถเลิกจ้างได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องมีหนังสือตักเตือนก่อน
- ประมาทจนเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
หากลูกจ้างประมาทเลินเล่อในการทำงาน จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร เช่น ความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือกระทบต่อผลประกอบการ นายจ้างสามารถเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย
นอกจากนี้ แม้ว่ากฎหมายแรงงาน ไม่ได้กำหนดเรื่องการลาออกของลูกจ้างไว้โดยตรง แต่การลาออกถือว่าไม่ใช่การเลิกจ้าง จึงทำให้ลูกจ้างที่ตัดสินใจลาออกเอง ไม่มีสิทธิได้รับ เงินชดเชยเลิกจ้าง เช่นเดียวกับกรณีที่นายจ้าง เลิกจ้างพนักงานที่มีความผิด
สำหรับผู้ประกอบการ หรือเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาเครื่องมือช่วยตรวจสอบ และบริหารจัดการเวลาทำงานของพนักงาน ขอแนะนำ Cloud-TA ระบบบันทึกเวลาทำงานออนไลน์ ที่มีฟีเจอร์ครบครัน เช่น การตรวจสอบเวลาทำงานแบบ Real Time, ระบบคำนวณเงินเดือนอัตโนมัติ, ฟังก์ชันการขออนุญาตลาหยุด, ตลอดจนการจัดเก็บ และสรุปข้อมูลสำคัญ สำหรับฝ่ายบุคคลได้อย่างเป็นระบบ สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Website: https://cloud-ta.com/
Email: cloud-ta@innova.co.th
Tel: 091-717-5499, 092-273-1760 (Sale)
Line: @Cloud-TA