Human Resources

ด่านแรกในการเข้าองค์กร มักเริ่มต้นที่ Human Resources ซึ่งบทบาทของ HR ในยุคนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรทั้งในด้านประสิทธิภาพ และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี บทความนี้ Cloud-TA จึงอยากพาคุณไปทำความรู้จักว่า HR คืออะไร และมีหน้าที่หลักอย่างไร พร้อมบอกคุณสมบัติที่คนทำงานด้านนี้ควรมี เพื่อให้เข้าใจว่า ทำไมตำแหน่งนี้ถึงมีความสำคัญต่อองค์กร ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

Key Takeaway

  • HR (Human Resources) คือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล มีหน้าที่ดูแล พัฒนา และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืนภายในองค์กร
  • บทบาทของ HR แบ่งออกได้เป็น 5 ด้าน ได้แก่ Recruitment and Staffing, Employee Relations, Learning and Development, Performance Management, และ Company Culture
  • ทักษะที่สำคัญที่สุดที่ HR ควรมี คือ ทักษะการสื่อสาร เพื่อสร้างความเข้าใจที่ดี ระหว่างองค์กรและพนักงาน

พารู้จัก HR คือตำแหน่งอะไร ?

HR หรือ Human Resources คือ ตำแหน่งงานที่อยู่ภายใต้แผนกทรัพยากรบุคคล มีหน้าที่สำคัญในการดูแลบุคลากร และพัฒนาศักยภาพของพนักงานภายในองค์กร รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อการทำงาน ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี พร้อมทั้งผลักดันให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

human resources

เจาะลึก Human Resources แต่ละประเภท มีหน้าที่อะไรบ้าง

ประเภทของ HR สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

  • Recruitment and Staffing

Recruiting คือ กระบวนการค้นหา และดึงดูดผู้สมัครที่เหมาะสม ส่วนการจัดจ้าง หรือ Staffing คือ การคัดเลือก วางตำแหน่ง และรักษาบุคลากรให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว

โดย HR อาจดำเนินการผ่านทีมภายใน หรือใช้บริการภายนอก โดยใช้วิธีต่าง ๆ เช่น การประกาศงาน การแนะนำจากพนักงาน หรือโครงการสรรหาพิเศษ ทั้งนี้ หน้าที่ของ HR ยังรวมถึงการประสานงานสัมภาษณ์ ดูแลประสบการณ์ผู้สมัคร และสนับสนุนการประเมินผล เพื่อให้ได้คนที่เหมาะสมที่สุดกับองค์กรอีกด้วย

  • Employee Relations

หากมีพบว่า พนักงานจำนวนมากไม่พึงพอใจในการทำงาน และประสบภาวะความเครียดเพิ่มขึ้น HR จะมีบทบาทในการรับรู้ปัญหาเหล่านี้ ผ่านการทำแบบสอบถามภายใน การประชุม และการสร้างช่องทางสื่อสารที่เปิดเผย

นอกจากนี้ HR ยังต้องส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่ดี และป้องกันความขัดแย้ง รวมถึงจัดระบบ เช่น การประชุมตัวต่อตัวรายสัปดาห์ หรือกิจกรรมพูดคุยกับผู้บริหาร เพื่อสร้างความโปร่งใส และความเชื่อมั่นในองค์กร

  • Learning and Development (L&D)

ฝ่าย L&D คือ หน่วยงานย่อยภายใต้ Human Resource ที่ดูแลเรื่องการฝึกอบรม และพัฒนาทักษะของพนักงาน ทั้งในเรื่องการทำงานปัจจุบัน และการเติบโตในอนาคต เช่น การปฐมนิเทศผู้นำใหม่ โปรแกรมพัฒนาความเป็นผู้นำ หรือหลักสูตรบังคับตามข้อกำหนดของบริษัท เป็นต้น

  • Performance Management

HR ต้องมีการประเมินผลการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้พนักงานเข้าใจบทบาทของตนเอง และสร้างความเชื่อมโยง ระหว่างผลงานกับผลลัพธ์ของธุรกิจ โดยระบบนี้จะช่วยเพิ่มความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และแรงจูงใจ รวมถึงยังช่วยให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรเชิงบวก การสื่อสารที่ดี และความผูกพันในงานมากขึ้นอีกด้วย

  • Company Culture

แม้ HR จะไม่ใช่คนที่รับผิดชอบวัฒนธรรมองค์กรโดยตรง แต่ HR ก็มีบทบาทสำคัญ ในการวางรากฐาน และขับเคลื่อนวัฒนธรรม ผ่านกระบวนการตั้งแต่การสรรหา การปฐมนิเทศ ไปจนถึงการจัดกิจกรรมภายใน

นอกจากนี้ HR ยังมีส่วนร่วมในการสื่อสารคุณค่า วิสัยทัศน์ และบรรยากาศในการทำงานให้กับพนักงาน ทั้งในรูปแบบของการมีส่วนร่วมกับกลุ่มพนักงาน การแก้ไขปัญหา ความขัดแย้ง และการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วย ที่จะเปลี่ยนงาน HR แสนวุ่นวายให้กลายเป็นเรื่องง่าย ขอแนะนำ Cloud TA โปรแกรม HRM & Payroll ที่ช่วยบริหารงานบุคคลได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือ/บัตรพนักงาน ฟีเจอร์สแกนใบหน้า/วัดอุณหภูมิ หรือฟีเจอร์ตรวจสอบตำแหน่งด้วย GPS และอื่น ๆ อีกมากมาย แบบครบจบในที่เดียว !

human resources

5 ทักษะ ที่ HR ยุคใหม่ควรมี และต่อยอด 

ในยุคดิจิทัลนี้ ทักษะที่ HR ต้องมีไม่ได้จำกัดแค่การบริหารคน แต่รวมถึงการใช้เทคโนโลยี และวางกลยุทธ์ เราจึงได้รวบรวม 8 ทักษะสำคัญที่ HR ยุคใหม่ควรมี เพื่อเสริมศักยภาพ และก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลง ดังนี้

  1. ทักษะด้าน Digital Skills

HR ยุคใหม่ต้องใช้งานระบบ HRM, HRIS, การจัดการเอกสารออนไลน์ และเครื่องมือการสื่อสารต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว และเพื่อเป็นการต่อยอดในสายอาชีพ ควรมีการเรียนรู้การใช้แพลตฟอร์มด้าน HR Tech เพิ่มเติม เช่น Cloud-TA, Slack, Notion หรือระบบจัดการเวลาทำงานออนไลน์ เป็นต้น

  1. ทักษะด้าน Data Analytics

การตัดสินใจในงาน HR ต้องมีพื้นฐานจากข้อมูล ไม่ใช่แค่ความรู้สึก ดังนั้น HR ควรใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลได้หลายแบบ เช่น Excel, Google Sheets, หรือ BI Tools เพื่ออ่านแนวโน้ม และประเมินผลพนักงาน ทั้งนี้ แนะนำให้ลองศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับ HR Metrics, Dashboard, และ People Analytics เพื่อเป็นการต่อยอด

  1. ทักษะด้าน Communication

เป็นทักษะที่สำคัญที่สุด เพราะ  HR ที่ดี ต้องสามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจน ทั้งกับผู้บริหาร และพนักงาน รวมถึงการสื่อสารในสถานการณ์ที่อ่อนไหว เช่น การประเมินผลงาน หรือการลาออก เป็นต้น ทั้งนี้ ควรหมั่นฝึกทักษะการสื่อสารเชิงจิตวิทยา และการสื่อสารแบบสร้างแรงบันดาลใจ ไว้เพื่อเป็นการต่อยอดในอนาคต

  1. ทักษะด้าน Collaboration

สำหรับ HR ที่ต้องทำงานแบบ Cross-functional มักต้องประสานงานระหว่างแผนก หรือทำงานร่วมกับฝ่ายต่าง ๆ เช่น L&D, IT หรือ Marketing จึงควรฝึกใช้เครื่องมือ ที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน เช่น Trello, Microsoft Teams, Asana และเรียนรู้แนวคิด Agile HR เป็นต้น

  1. ทักษะด้าน Creativity

HR ที่ดีต้องคิดนอกกรอบ เพื่อสร้างกิจกรรม วางแผนสวัสดิการ หรือออกแบบประสบการณ์พนักงานที่โดดเด่น โดยอาจฝึกคิดไอเดียผ่านเทคนิค Design Thinking และลองใช้ AI Tools หรือเทรนด์ใหม่ ๆ เพื่อมาเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของ HR

human resources

อย่างไรก็ตาม หากองค์กร หรือบริษัทใด กำลังมองหาโปรแกรมจัดการงานบุคคล ที่ช่วยเปลี่ยนการทำงานของ HR ให้เป็นระบบมากขึ้น มีความแม่นยำ และลดความซับซ้อน ในการจัดการข้อมูลบุคลากร ขอแนะนำ “Cloud-TA” ระบบที่ออกแบบมา เพื่อช่วยบริหารงาน HR ได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น

  • การบันทึกเวลาเข้า-ออกงาน ทั้งผ่านแอป และอุปกรณ์สแกน
  • สรุปข้อมูลการลางาน สถิติขาด-มาสาย พร้อมระบบอนุมัติที่ตรวจสอบได้
  • ช่วยจัดทำรายงานการทำงาน และประสิทธิภาพของพนักงานได้อัตโนมัติ
  • เชื่อมต่อข้อมูลกับระบบเงินเดือน (Payroll) ได้อย่างราบรื่น
  • ใช้งานง่ายผ่าน Cloud ไม่ต้องติดตั้งระบบให้ยุ่งยาก

หากสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือทดลองใช้งาน สามารถติดต่อหาเราได้ที่

Website: https://cloud-ta.com/

Email: cloud-ta@innova.co.th

Tel: 091-717-5499, 092-273-1760 (Sale)

Line: @Cloud-TA

HR กับ HRS ต่างกันอย่างไร ?

HR ย่อมาจาก Human Resources เป็นฝ่ายทรัพยากรบุคคล ที่มีหน้าที่ดูแล และบริหารจัดการพนักงานในองค์กรทุกส่วน เช่น การจ้างงาน การพัฒนาพนักงาน สวัสดิการ และดูแลความเป็นอยู่ของพนักงานให้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงจัดการเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในองค์กร

ในขณะที่ HRS ย่อมาจาก Human Resources System เป็นระบบที่ใช้ในการจัดการข้อมูลทรัพยากรมนุษย์ และกระบวนการทางด้านบุคคลภายในองค์กร เช่น ข้อมูลส่วนตัว ประวัติการทำงาน การสัมภาษณ์ การวิจัยทรัพยากรมนุษย์ การจัดการเงินเดือน การลางาน และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในองค์กร

อยากทำงานตำแหน่ง HR ต้องเรียนจบอะไร ?

การเข้าสู่เส้นทางสายอาชีพ HR ไม่ได้มีการจำกัดสาขาการเรียนตายตัว เพียงแต่ผู้สมัครงาน ต้องนำเสนอข้อดีของตนเอง ให้โดดเด่นเหนือคนอื่น ๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว จะนิยมรับนิสิต และนักศึกษาในคณะศิลปศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ คณะบริหารการจัดการ และคณะพาณิชยศาสตร์ สาขาการบริหารทรัพยากรมนุษย์

HR Payroll คืออะไร ทำไมถึงสำคัญต่อองค์กร ?

HR Payroll คือ ฝ่ายบุคคลในองค์กร ที่รับผิดชอบในการจัดการ เกี่ยวกับการจ่ายเงิน และการจัดการเงินเดือนของพนักงานในองค์กร โดยทั่วไปแล้ว HR Payroll จะทำการรวบรวมการประมวลผลเงินเดือน การจ่ายเงิน การหักภาษี การจัดการสวัสดิการ และงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ของพนักงานในองค์กร

เรตเงินเดือนของตำแหน่ง HR เริ่มต้นที่เท่าไหร่ ?

โดยปกติแล้วเงินเดือนของตำแหน่ง HR จะแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ ตำแหน่ง และขนาดขององค์กร เริ่มตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ 15,000 บาท/เดือน ตามเรตเงินเดือนของเด็กจบใหม่

เมื่อต้องไปสัมภาษณ์งาน ควรถามคำถามอะไร ให้โดนใจ HR ?

การสัมภาษณ์งาน นอกจากจะต้องเตรียมการแนะนำตัว และการตอบคำถามทั่วไป เกี่ยวกับขอบเขตของงาน และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายอาชีพแล้ว HR มักจะเปิดโอกาสให้ผู้สมัคร ได้ถามคำถามที่อยากรู้ เพื่อแสดงให้ HR เห็นว่า คุณต้องการทำงานในตำแหน่งที่สมัครจริง ๆ ซึ่งคำถามที่น่าสนใจ และควรถาม HR ได้แก่

  • ขอบเขตงานที่ต้องรับผิดชอบ
  • ความท้าทายที่เจอในตำแหน่งนี้
  • มีการทำงานล่วงเวลาหรือไม่
  • แผนกที่ทำงานมีจำนวนพนักงานกี่คน
  • ใครคือหัวหน้าทีม
  • ตำแหน่งงานที่สมัคร เป็นตำแหน่งงานใหม่หรือเปล่า
  • การเปลี่ยนแปลงในบริษัท
  • ตำแหน่งที่สมัครมีการเปลี่ยนงานบ่อยหรือไม่
  • ใน 1 ถึง 3 เดือนแรก บริษัทคาดหวังอะไรในตำแหน่งงานที่คุณเข้าไปทำบ้าง