กฎหมายเลิกจ้าง

การถูกเลิกจ้าง เป็นกระบวนการที่ท้าทายทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง รวมถึง HR ที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อรักษาผลประโยชน์ขององค์กร และพนักงานให้ถูกต้องตามกฎหมายแรงงาน หากดำเนินการผิดข้อกำหนดทางกฎหมาย องค์กรก็อาจถูกฟ้องร้อง โดยพนักงานที่ถูกเอารัดเอาเปรียบได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ผลเสียต่าง ๆ ที่เกินกว่าจะคาดคิด

ดังนั้น ในบทความนี้ Cloud-TA จะมาแชร์สาระน่ารู้เกี่ยวกับ กฎหมายเลิกจ้าง พร้อมกับอัตราค่าเลิกจ้าง เพื่อให้ HR สามารถจัดการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้นได้มหาศาล จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกัน 

กฎหมายเลิกจ้าง

ชวนรู้ ! ค่าชดเชย และค่าตกใจ แตกต่างกันอย่างไรในทางกฎหมาย

เมื่อพูดถึงการเลิกจ้างพนักงาน โดยเฉพาะในกรณีที่ถูกเลิกจ้างกะทันหัน เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่า “ค่าชดเชย” กับ “ค่าตกใจ” เป็นเรื่องเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน และมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน ซึ่ง Cloud-TA ได้รวบรวมความแตกต่างระหว่างค่าชดเชย กับค่าตกใจ มาไว้ให้แล้ว ดังนี้

ค่าชดเชย

ค่าชดเชย คือ เงินที่นายจ้างให้แก่ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง หรือถูกให้ออกจากงานโดยไม่สมัครใจ และไม่มีความผิดใด ๆ เช่น หมดสัญญาจ้าง เลิกกิจการ และเกษียณอายุ โดยเงินชดเชยที่จะได้รับ ขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือน และอายุงาน ดังนี้

  • ลูกจ้างทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน
  • ลูกจ้างทำงานติดต่อกัน 1-3 ปี นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย เท่ากับค่าจ้างการทำงาน 90 วัน ในอัตราสุดท้าย
  • ลูกจ้างทำงานติดต่อกัน 3-6 ปี นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย เท่ากับค่าจ้างการทำงาน 180 วัน ในอัตราสุดท้าย
  • ลูกจ้างทำงานมาแล้ว 6-10 ปี นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย เท่ากับค่าจ้างการทำงาน 240 วัน ในอัตราสุดท้าย
  • ลูกจ้างทำงานมาแล้ว 10-20 ปี นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย เท่ากับค่าจ้างการทำงาน 300 วัน ในอัตราสุดท้าย
  • ลูกจ้างทำงานมาแล้ว 20 ปีขึ้นไป นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย เท่ากับค่าจ้างการทำงาน 400 วัน ในอัตราสุดท้าย

ค่าตกใจ

ค่าตกใจ หรือค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า เป็นเงินที่นายจ้างต้องจ่ายให้ลูกจ้าง ในกรณีที่ต้องการเลิกจ้างทันที โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อน 30 วัน ซึ่งนายจ้างจะต้องจ่ายค่าตกใจ ให้กับพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง 

ในกรณีที่ไม่ต้องการให้ลูกจ้างทำงานต่อ ในระยะเวลาบอกกล่าวล่วงหน้า และกรณีที่นายจ้าง ต้องการเลิกจ้างโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ตาม กฎหมายแรงงาน โดยมีวิธีการคำนวณค่าตกใจ ดังต่อไปนี้

  • กรณีที่ 1: นายจ้างจ่ายค่าจ้างทุกวันที่ 1 ของเดือน หากต้องการเลิกจ้างในวันที่ 1 เมษายน ซึ่งนายจ้างต้องบอกล่วงหน้าช้าสุด ภายในวันที่ 1 มีนาคม โดยค่าตกใจที่ต้องจ่ายคิดตามอัตราเงินเดือน 

ยกตัวอย่างเช่น ค่าจ้างรายเดือน 20,000 บาท ค่าตกใจที่ต้องจ่ายเป็น 20,000 บาท

  • กรณีที่ 2: นายจ้างต้องการเลิกจ้างในวันที่ 15 มีนาคม และต้องการให้ลูกจ้างออกจากงานทันที นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้าง แทนการบอกกล่าวล่วงหน้า เป็นเวลา 45 วัน 

ยกตัวอย่างเช่น ค่าจ้างรายเดือน 20,000 บาท ค่าตกใจที่ต้องจ่ายเป็น 30,000 บาท (ตามสูตร 20,000 บาท ÷ 30 วัน x 45 วัน)

กฎหมายเลิกจ้าง

4 กฎหมายแรงงาน ที่ควรรู้ หากต้องการเลิกจ้างอย่างเป็นธรรม

เมื่อเข้าสู่กระบวนการเลิกจ้างพนักงาน ตาม กฎหมายแรงงาน ได้มีการระบุให้นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามที่ระบุไว้ เพื่อคุ้มครองลูกจ้าง ซึ่ง กฎหมายเลิก จ้างที่ HR และมนุษย์เงินเดือนควรเรียนรู้ และทำความเข้าใจ มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 4 ข้อกฎหมาย ดังนี้

พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 (แก้ไขเพิ่มเติม) หมวด 11 ค่าชดเชย

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 (แก้ไขเพิ่มเติม) หมวด 11 ค่าชดเชย ได้มีการระบุไว้ว่า ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชย เมื่อถูกเลิกจ้าง โดยอัตราค่าชดเชย ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทำงาน ของพนักงานแต่ละคน 

อย่างไรก็ตาม กฎหมายได้มีการยกเว้นให้ นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ในกรณีที่ลูกจ้างทุจริต จงใจให้นายจ้างเสียหาย และฝ่าฝืนข้อบังคับ หลังจากได้รับการตักเตือน รวมถึงละทิ้งหน้าที่ 3 วันติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุผล หรือได้รับโทษจำคุก

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 575-586 ว่าด้วยการจ้างงาน

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 575-586 ว่าด้วยการจ้างงาน ได้มีการระบุไว้ว่า การจ้างแรงงานตามกฎหมาย คือ สัญญาที่ลูกจ้างตกลงทำงานให้นายจ้าง โดยได้รับค่าตอบแทน ดังนั้น นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างตามกำหนด และไม่สามารถเลิกจ้างได้ หากลูกจ้างลางานด้วยเหตุสมควร เมื่อลูกจ้างต้องการยกเลิกสัญญา ลูกจ้างมีสิทธิได้รับใบรับรองการทำงาน

นอกจากนี้ ข้อกฎหมายยังคุ้มครองลูกจ้างในหลายด้าน เช่น หากไม่ได้ตกลงค่าจ้าง แต่งานนั้นไม่ใช่งานที่ทำฟรี ต้องถือว่ามีการตกลงค่าจ้างโดยปริยาย และหากลูกจ้างถูกจ้างจากต่างถิ่น นายจ้างจะต้องออกค่าเดินทางกลับให้ เมื่อสิ้นสุดสัญญา

พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 หมวด 9 การกระทำอันไม่เป็นธรรม

สำหรับพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 หมวด 9 การกระทำอันไม่เป็นธรรม เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสหภาพแรงงานโดยตรง ว่าด้วยการกระทำที่ไม่เป็นธรรมของนายจ้าง 

โดยห้ามนายจ้างเลิกจ้าง หรือกดดันลูกจ้าง ในกรณีที่ลูกจ้างใช้สิทธิตามกฎหมาย เช่น การยื่นข้อเรียกร้อง การเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน หรือการเป็นพยานในคดีแรงงาน อีกทั้งนายจ้าง ห้ามบีบบังคับให้ลูกจ้าง เข้าหรือออกจากสหภาพแรงงานอีกด้วย

นอกจากนี้ กฎหมายเลิกจ้าง ฉบับนี้ ยังกำหนดข้อยกเว้นที่นายจ้าง สามารถเลิกจ้างลูกจ้างได้ เช่น กรณีทุจริต จงใจทำให้นายจ้างเสียหาย ฝ่าฝืนระเบียบอย่างร้ายแรง หรือละทิ้งหน้าที่เกิน 3 วัน โดยไม่มีเหตุผล หากมีการฝ่าฝืน ผู้เสียหายมีสิทธิยื่นคำร้อง ต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ภายใน 60 วัน หากผู้ถูกกล่าวหาปฏิบัติตามคำสั่ง การดำเนินคดีอาญาจะระงับไป

พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน และวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 49

ในส่วนของพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน และวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 39 เป็นบทบัญญัติที่คุ้มครองลูกจ้าง ในกรณีถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม โดยให้อำนาจศาลแรงงาน ในการพิจารณาคดีการเลิกจ้าง หากศาลเห็นว่าการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ศาลสามารถสั่งให้นายจ้าง รับลูกจ้างกลับเข้าทำงาน ในอัตราค่าจ้างเดิมก่อนถูกเลิกจ้าง

อย่างไรก็ตาม หากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าลูกจ้าง และนายจ้างไม่สามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ นายจ้างจะต้องชดเชยให้แก่ลูกจ้าง แทนการรับกลับเข้าทำงาน โดยศาลจะพิจารณาอัตราค่าเสียหายให้ ผ่านอายุของลูกจ้าง ระยะเวลาการทำงาน ความเดือดร้อนที่ลูกจ้างได้รับ สาเหตุของการเลิกจ้าง รวมถึงเงินค่าชดเชย ที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามกฎหมาย เป็นต้น

ทั้งนี้ หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยดี ๆ ในการสังเกตว่าพนักงานคนไหน มีแนวโน้มทำผิดสัญญาจ้าง หรือขาดงานเกินที่กำหนด อย่าลืมนึกถึง Cloud-TA ระบบเช็กอินเข้างานที่แสนสะดวก ทั้งยังมีระบบที่คอยรวบรวมเอกสารสำคัญ ของพนักงานในองค์กร ทำให้การดำเนินการต่าง ๆ สอดคล้องกับ กฎหมายแรงงาน

กฎหมายเลิกจ้าง

รวม Q&A สำหรับ กฎหมายเลิกจ้าง ที่ HR และคนทำงานต้องรู้ !

หลังจากที่ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับ กฎหมายเลิกจ้าง กันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถาม เกี่ยวกับการเลิกจ้างงาน และเงินค่าชดเชยในกรณีต่าง ๆ มากมาย Cloud-TA จึงได้รวบรวมทุกข้อสงสัย ที่คนส่วนใหญ่มีคำถาม เพื่อให้ HR สามารถตอบคำถามพนักงานในองค์กรได้ดียิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน

หากถูกเลิกจ้างงาน จะได้รับสิทธิชดเชยของประกันสังคมหรือไม่

สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกประกันสังคม เฉพาะประกันสังคม มาตรา 33 กรณีถูกเลิกจ้างงาน ทางประกันสังคมจะมีการจ่ายเงินทดแทนเป็นเวลา 180 วันต่อปี ในอัตราร้อยละ 60 ของค่าจ้างโดยเฉลี่ย สมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท

โดยสามารถยื่นรอรับเงิน ผ่านระบบออนไลน์ และขึ้นทะเบียนที่เว็บไซต์ https://e-service.doe.go.th หรือยื่นแบบฟอร์มที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดทั่วประเทศ (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุข) ทั้งนี้ หากต้องการทราบรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนประกันสังคม 1694

เมื่อได้รับเงินชดเชยเลิกจ้าง ต้องยื่นภาษีหรือไม่

เงินชดเชยเลิกจ้าง ถือเป็นเงินที่ได้รับตามกฎหมาย ซึ่งหากนำมาคำนวณรวมกับเงินได้ อาจส่งผลให้ภาษีบุคคลสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น กฎหมายแรงงาน จึงกำหนดให้เงินชดเชย แยกออกจากการเสียภาษีปกติ

โดยเฉพาะในกรณีที่พนักงานถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด และได้รับเงินชดเชยตาม กฎหมายแรงงาน หากจำนวนเงินชดเชยที่ได้รับ ไม่เกินค่าจ้างของการทำงาน 400 วันทำงานสุดท้าย และไม่เกิน 600,000 บาท ถือว่าเป็นเงินที่ได้รับการยกเว้นภาษี

หากถูกเลิกจ้างงาน HR ต้องจ่ายเงินชดเชยภายในกี่วัน

ตาม กฎหมายเลิกจ้าง กรณีค่าชดเชยมาตรา 118 หรือเงินชดเชยเลิกจ้าง, สินจ้างแทนการบอกล่วงหน้า และค่าชดเชยพิเศษมาตรา 120, 121 และ 122 จะต้องจ่ายเงินในวันที่เลิกจ้าง ทั้งนี้ หากลูกจ้างไม่ได้รับเงิน สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงาน เพราะถือว่าเป็นการถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ กฎหมายเลิกจ้าง และเงื่อนไขการจ่ายเงินชดเชย โดยจะเห็นได้ว่า การเลิกจ้างพนักงาน เป็นกระบวนการที่ต้องปฏิบัติตาม กฎหมายแรงงาน อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในทางกฎหมาย ดังนั้น HR ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ กฎหมายเลิกจ้าง ให้ลึกซึ้ง เพื่อดำเนินการต่าง ๆ ได้อย่างเป็นธรรม และช่วยให้การบริหารงานในองค์กร ดำเนินไปอย่างราบรื่น

สุดท้ายนี้ หากต้องการยกระดับองค์กรให้ทันสมัย และจัดเก็บเอกสารของพนักงานให้ปลอดภัย โปร่งใสในทุกกระบวนการ ขอแนะนำให้ลองใช้ระบบเช็กอินเข้างานออนไลน์ Cloud-TA เพื่อให้การบริหารในองค์กรลื่นไหลยิ่งขึ้น หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่

Website: https://cloud-ta.com/

Email: cloud-ta@innova.co.th

Tel: 091-717-5499, 092-273-1760 (Sale)

Line: @Cloud-TA