ในปัจจุบันนี้มนุษย์เงินเดือนหลายคน นอกจากจะรับเงินเดือน จากงานประจำแล้ว ก็ยังมีรายได้เสริมจากอาชีพอื่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การทำงานฟรีแลนซ์ในสายงานที่ถนัด หรือขายของออนไลน์ ไปจนถึงการเปิดกิจการเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ซึ่งการมีรายได้หลายทาง ก็ต้องพ่วงมากับการยื่นภาษีด้วยเช่นกัน
ดังนั้น สำหรับใครที่ยังสับสนว่าควรยื่นภาษีแบบไหน ในบทความนี้ Cloud-TA จะพาทุกคนมาทำความรู้จักว่า ภงด.90 คือ และมีความสำคัญอย่างไร กับมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้เสริม เพื่อดำเนินการยื่นภาษีอย่างถูกต้อง แม้ไม่มีพื้นฐานเรื่องตัวเลขก็เข้าใจได้ง่าย หากพร้อมแล้ว เราไปดูกันได้เลย

ทำความรู้จัก ภงด.90 คือ ? สำคัญกับการยื่นภาษีอย่างไร
ภ.ง.ด.90 คือ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่มีเงินได้ตามมาตรา 40 (1) ถึง (8) หลายประเภท หรือประเภทเดียว โดยจะต้องยื่นแบบตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคมของปีถัดไป ซึ่งเงินได้แต่ละประเภท สามารถจำแนกออกได้ ดังนี้
- เงินได้ประเภท 40 (1): เป็นเงินได้จากการจ้างแรงงาน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง และโบนัส
- เงินได้ประเภท 40 (2): เป็นรายได้ที่ได้จากการรับจ้างงานทั่วไป เช่น การรับงานอิสระ ฟรีแลนซ์ ค่าคอมมิสชัน และค่าตอบแทนจากการทำงาน โดยเงินประเภทนี้ จะไม่ได้อยู่ในสถานะเจ้านาย และลูกน้อง แต่เป็นการรับเงินจากสถานประกอบการอื่น ๆ
- เงินได้ประเภท 40 (8): ได้แก่ เงินได้จากธุรกิจการพาณิชย์ การเกษตร อุตสาหกรรม และขนส่ง เป็นต้น
ซึ่งผู้ที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในรูปแบบ ภ.ง.ด.90 สามารถคำนวณภาษีได้ผ่านสูตร “รายได้สุทธิ X อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามขั้นบันได” ทั้งนี้ หากมีรายได้เงิน 120,000 บาท/ปี (นอกเหนือจากเงินเดือน) ควรคำนวณทั้งแบบปกติ และแบบ 0.5% ของรายได้สุทธิ แล้วเปรียบเทียบ เพื่อเลือกยอดที่สูงกว่า
ไขข้อข้องใจ ! ใครบ้างที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 ในช่วงเสียภาษี
เมื่อทำความเข้าใจกันไปแล้วว่า ภงด.90 คือ? หลายคนคงสงสัยไม่น้อยกว่า ภ.ง.ด. 90 ต้องเสียภาษีในช่วงไหน โดยปกติแล้วมนุษย์เงินเดือน จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในช่วงวันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม เป็นประจำทุกปี
หากเป็นพนักงานที่มีรายได้ เป็นเงินเดือนอย่างเดียว โดยไม่มีรายได้เสริมจากที่อื่น จะต้องอื่นในรูปแบบ ภ.ง.ด.91 สำหรับผู้ที่มีรายได้ นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับ หรือเข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้ จะต้องยื่นแบบภ.ง.ด.90
- บุคคลที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ที่มีเงินได้เกิน 60,000 บาท
- บุคคลที่เป็นสามี ภรรยา ที่มีเงินได้จากทั้งสองฝ่ายรวมกันเกิน 120,000 บาท
- ทรัพย์สินมรดก ที่ยังไม่ได้แบ่งมีเงินได้เกิน 60,000 บาท
- ผู้ที่มีรายได้จากฟรีแลนซ์
- ห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคล มีเงินได้เกิน 60,000 บาท
- บุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล มีเงินได้เกิน 60,000 บาท
- วิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล ที่มีเงินได้เกิน 1,800,000 บาท หรือ 60,000 บาท แต่ไม่เกิน 1,800,000 บาท จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้

เข้าใจก่อนยื่นภาษี! มนุษย์เงินเดือนมีรายได้เสริม ต้องเสียภาษีอย่างไร
การยื่นภาษีสำหรับผู้มีเงินได้ จะอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 ช่วง โดยรอบแรกจะยื่นภ.ง.ด.94 ในช่วงกลางปี สำหรับผู้ที่ทำอาชีพอิสระ หรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ส่วนการยื่นภาษีรอบที่สอง จะอยู่ในช่วงเดือนมกราคม ถึงมีนาคมของปีถัดไป ซึ่งจะเป็นการนำเงินได้ทุกประเภท นับตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงธันวาคมของปีนั้น มาคำนวณแล้วชำระภาษีที่ชำระไปแล้ว มาเป็นเครดิตภาษีหักลบกัน
ซึ่งมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้เสริม จากช่องทางอื่น ๆ หรือประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ควบคู่ไปด้วย ก็สามารถรวบยอดไปยื่นภาษีในช่วงต้นปีได้ เพียงแค่ต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้เรียบร้อย โดยผู้ที่ทำฟรีแลนซ์จะต้องเสียภาษีทั้งสิ้น 2 รอบ ได้แก่
- จ่ายรอบแรก: หักภาษี ณ ที่จ่าย 3%
การจ่ายภาษีรอบแรก จะเป็นการหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% หรือหักภาษีทุกครั้งที่ได้รับเงิน โดยผู้ว่าจ้างจะหักจากจำนวนเงินที่จะจ่ายให้ และนำเงินนั้นไปให้กับรัฐ ทำให้ผู้รับเงิน จะได้เงินไม่เต็มจำนวน พร้อมกับเอกสารหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน เวลาทำเรื่องลดหย่อนภาษี
- จ่ายรอบที่2: ช่วงยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สำหรับการจ่ายภาษีในรอบที่ 2 จะเป็นการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 โดยจะต้องยื่นให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี ทั้งนี้ กรณีที่มีรายได้จากงานฟรีแลนซ์ เกิน 60,000 ต่อปี จะต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 เพิ่มเติมแบบ ภ.ง.ด.1
ทั้งนี้ หากเจ้าของกิจการที่กำลังมองหาตัวช่วยในการจัดการเงินเดือน และเอกสารภาษีประจำปี ขอแนะนำ Cloud-TA ระบบบริการเงินเดือน ภายในองค์กรที่ครบวงจร และใช้งานได้ง่ายผ่านระบบออนไลน์ พร้อมรองรับการใช้งานทุกเครื่องมือ ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้
อัตราภาษีเงินได้สำหรับฟรีแลนซ์ รู้ก่อนเริ่มเสียภาษีประจำปี
โดยปกติแล้วผู้ที่มีรายได้เสริม หรือทำฟรีแลนซ์ ควบคู่กับงานประจำ จะเสียเงินภาษี ในอัตราเดียวกับผู้มีรายได้ประจำเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะมีอัตราภาษีเงินได้ที่ต้องเสียในแต่ละปี ดังต่อไปนี้
- เงินได้สุทธิ 0 – 150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี
- เงินได้สุทธิ 150,001 – 300,000 บาท อัตราภาษี 5%
- เงินได้สุทธิ 300,001 – 500,000 บาท อัตราภาษี 10%
- เงินได้สุทธิ 500,001 – 750,000 บาท อัตราภาษี 15%
- เงินได้สุทธิ 750,001 – 1,000,000 บาท อัตราภาษี 20%
- เงินได้สุทธิ 1,000,001 – 2,000,000 บาท อัตราภาษี 25%
- เงินได้สุทธิ 2,000,001 – 5,000,000 บาท อัตราภาษี 30%
- เงินได้สุทธิ 5,000,001 อัตราภาษี 35%

ข้อควรรู้ ! หากยื่นภาษีไม่ทัน ทำอย่างไรได้บ้าง?
ในบางครั้งมนุษย์เงินเดือน อาจมีภาระงานมากมายจนลืมยื่นภาษี เมื่อรู้ตัวอีกทีก็หมดเขตยื่นภาษีไปแล้ว โดยทุกคนสามารถกรอกแบบ ภ.ง.ด.90 พร้อมกับเอกสารแสดงรายได้ หนังสือรับรองการหักภาษี และหลักฐานการหักค่าลดหย่อน ไปยื่นติดต่อแบบที่สรรพากรพื้นที่ใกล้บ้าน
นอกจากนี้ ในกรณีที่ยื่นภาษีไม่ทัน อาจต้องเตรียมใจที่จะเจอกับค่าปรับ และเงินเพิ่มที่เกิดจากการยื่นภาษีล่าช้า โดยทางกรมสรรพากรได้กำหนดบทลงโทษ สำหรับคนที่ยื่นภาษีล่าช้า ไว้ให้ผู้เสียภาษีได้รับทราบอย่างละเอียด ดังนี้
- กรณียื่นภาษีล่าช้า
หากยื่นภาษีล่าช้า ทางกรมสรรพากรก็ได้กำหนดบทลงโทษ สำหรับกรณีไม่ยื่นภาษีเงินได้ ภ.ง.ด.90 ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะต้องได้รับโทษปรับทางอาญา ไม่เกิน 2,000 บาท
- กรณียื่นภาษีย้อนหลังเลยกำหนด
กรมสรรพากร ได้กำหนดเกณฑ์ค่าปรับไว้ 2 กรณี ได้แก่ การจ่ายค่าปรับจากการยื่นภาษีล่าช้า 2,000 บาท และเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือน (เศษของเดือนที่จ้องจ่ายภาษี ถูกปัดเป็น 1 เดือน) หรือจ่ายค่าปรับจากการยื่นภาษีล่าช้า 2,000 บาท
- กรณียื่นภาษีผิด
ในกรณีที่ยื่นภาษีผิด ไม่ว่าจะเป็น จ่ายภาษีเกิน รวมถึงมีภาษีที่จ่ายเพิ่มเติม หรือจ่ายภาษีเรียบร้อยแล้ว แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง หากรู้ตัวช้า หรือรู้ตัวหลังเลยระยะเวลายื่นภาษีประจำปี จะต้องกรอกเอกสาร และนำเอกสารทั้งหมดไปทำการยื่นภาษีอีกครั้ง โดยกรมสรรพากร ได้กำหนดโทษของการยื่นภาษีย้อนหลังไว้ 2 กรณี ได้แก่
- ยื่นภาษีเพิ่มเติมย้อนหลัง และต้องจ่ายภาษี: ต้องจ่ายเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือน แต่ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ
- ยื่นภาษีเพิ่มเติมย้อนหลัง ไม่ต้องจ่ายภาษี: ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม และไม่ต้องจ่ายค่าปรับ
- ยื่นภาษีออนไลน์เรียบร้อยแล้ว แต่ลืมจ่ายภาษี
ในกรณีที่ยื่นภาษีออนไลน์ครบทุกขั้นตอน แต่ลืมจ่ายภาษี ทางกรมสรรพากร จะถือว่ายังไม่ได้ทำการยื่นภาษี ดังนั้น ผู้เสียภาษีต้องเตรียมเอกสาร และไปยื่นภาษีอีกครั้ง ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่
ทั้งนี้ นอกเหนือจากภาษีที่ต้องจ่ายแล้ว จะต้องจ่ายค่าปรับ 2,000 บาท รวมถึงเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ของเงินภาษีที่ต้องจ่าย นับตั้งแต่วันพ้นกำหนดการยื่นภาษี จนถึงวันที่จ่ายภาษี
- ผ่อนภาษี แล้วลืมจ่ายภาษี
ในกรณีที่ทำเรื่องผ่อนจ่ายภาษี 0% 3 เดือน และลืมจ่ายภาษีงวดใดงวดหนึ่งไป การผ่อนจ่ายภาษีจะสิ้นสุดลงทันที โดยผู้เสียภาษีจำเป็นต้องจ่ายภาษีที่เหลือทั้งหมด พร้อมกับเงินเพิ่มอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ของภาษีงวดที่เหลือด้วย
ทั้งหมดนี้ก็คือ ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ภ.ง.ด.90 รูปแบบการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับพนักงานประจำที่มีรายได้เสริม ทั้งจากการทำฟรีแลนซ์ หรือแม้แต่เป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เพื่อให้การยื่นภาษีดำเนินไปอย่างราบรื่น และลดความเสี่ยง ที่จะเกิดความผิดพลาดได้อีกด้วย
สำหรับองค์กรที่ต้องการอัปเกรด ระบบบันทึกเวลาเข้า-ออกงาน หรือจัดเก็บข้อมูลทางการเงินของพนักงาน เพื่อนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขอแนะนำ Cloud-TA ระบบบันทึกเวลาเข้าออก และควบคุมการเปิดประตูที่ทำงาน ผ่านระบบคลาวด์ ทั้งยังมีการบันทึกข้อมูลพนักงาน ไว้ในที่เดียว หากสนใจติดต่อได้ที่
Website: https://cloud-ta.com/
Email: cloud-ta@innova.co.th
Tel: 091-717-5499, 092-273-1760 (Sale)
Line: @Cloud-TA