กฎหมายแรงงาน

ในการทำงานภายใต้บริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ กฎหมายแรงงาน วันหยุด ได้กำหนดสิทธิพื้นฐานของลูกจ้างไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของสวัสดิการ เงินเดือน หรือแม้แต่ “วันหยุดประจำปี” ที่หลายคนอาจเคยสังเกตว่าแต่ละที่นั้นไม่เท่ากัน ดังนั้น เพื่อให้เข้าใจชัดเจนมากขึ้น ในบทความนี้ Cloud-TA ขอพาไขข้อสงสัย กฎหมายคุ้มครองแรงงานวันหยุดประจำปี ลูกจ้างต้องได้กี่วัน ? ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกัน

กฎหมายแรงงาน วันหยุด

ตอบคำถาม! กฎหมายแรงงาน วันหยุด ที่ลูกจ้างควรได้รับ

หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัย ว่าลูกจ้างควรได้รับวันหยุดกี่วันต่อปีตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ? คำตอบคือ กฎหมายได้กำหนดให้ลูกจ้าง ต้องได้รับวันหยุดไม่น้อยกว่า 13 วันต่อปี รวมวันแรงงานแห่งชาติด้วย โดยนายจ้างจะเป็นผู้กำหนดวันหยุดประจำปี สามารถเลือกตรงกับวันหยุดราชการหรือไม่ก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีวันหยุดตามกฎหมายแรงงานเพิ่มเติมอีก ดังนี้

  • วันหยุดประจำสัปดาห์: อย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งโดยทั่วไปนิยมกำหนดให้เป็นวันอาทิตย์ แต่สามารถตกลงเปลี่ยนเป็นวันอื่นได้ตามความเหมาะสม
  • วันหยุดพักผ่อน: หรือวันหยุดพักร้อน เมื่อลูกจ้างทำงานครบ 1 ปี ขึ้นไป นายจ้างต้องจัดให้มีวันหยุดพักผ่อนประจำปี ไม่น้อยกว่า 6 วันทำการ โดยลูกจ้างสามารถสะสมวันหยุดไว้ใช้ต่อเนื่องในปีถัดไปได้
  • วันหยุดลาป่วย: ในกรณีที่ลูกจ้างเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเกิดจากการทำงานหรือไม่ก็ตาม ลูกจ้างมีสิทธิ ลาป่วยได้ตามความจำเป็น และสามารถลาป่วยโดยได้รับค่าจ้าง ไม่เกิน 30 วันต่อปี

สำหรับผู้ประกอบการ หรือเจ้าของบริษัทกำลังมองหาเครื่องมือในการจัดการวันหยุด และเวลาทำงานอย่างครบวงจร ขอแนะนำ Cloud-TA โดยสามารถตรวจสอบเวลาเข้า – ออกงานในแต่ละวันจากหน้าจอปฏิทินได้ รวมทั้งแสดงวันหยุด การลาต่าง ๆ ของพนักงานบนหน้าปฏิทิน

กฎหมายแรงงาน วันหยุด

ทำไม กฎหมายแรงงาน วันหยุด ถึงเป็นเรื่องใหญ่ที่นายจ้างต้องใส่ใจ

กฎหมายคุ้มครองแรงงาน ถือเป็นเรื่องสำคัญที่นายจ้างต้องจัดสรร และดำเนินการอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในเรื่อง “วันหยุด” ซึ่งไม่เพียงเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของลูกจ้างเท่านั้น แต่ยังถือเป็นหัวใจสำคัญที่นายจ้างต้องให้ความใส่ใจอย่างจริงจัง เพราะหากละเลยกฎหมายคุ้มครองแรงงานวันหยุด หรือไม่ปฏิบัติตาม อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อองค์กรในหลายด้าน ดังนี้

  • เสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง

การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานเกี่ยวกับวันหยุด อาจนำไปสู่การถูกฟ้องร้องทั้งในทางแพ่งและอาญา ซึ่งจะสร้างภาระด้านกฎหมายให้กับบริษัทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าปรับ ค่าชดเชย หรือกระบวนการต่อสู้คดีที่เสียทั้งเวลาและทุนทรัพย์

  • กระทบภาพลักษณ์บริษัท

หากมีการร้องเรียนว่า บริษัทไม่ให้วันหยุดตามที่กฎหมายกำหนด อาจทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหาย เสียความเชื่อมั่นทั้งในหมู่พนักงานภายในองค์กร และในสายตาของลูกค้า รวมถึงอาจทำให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจในอนาคต

  • ลดประสิทธิภาพการทำงาน

พนักงานที่ไม่ได้รับวันหยุดตามที่ควร อาจเกิดความรู้สึกไม่พอใจ และมองว่าองค์กร ไม่ใส่ใจคุณภาพชีวิตของพนักงาน ซึ่งจะส่งผลต่อแรงจูงใจ ความกระตือรือร้น และสมาธิในการทำงานโดยตรง ในระยะยาวอาจทำให้พนักงานลาออกบ่อยครั้ง เกิดการขาดช่วงของงาน ส่งผลเสียต่อผลลัพธ์โดยรวมขององค์กร รวมถึงทำให้องค์กรต้องเสียเวลา และต้นทุนในการสรรหาบุคลากรใหม่อยู่เสมอ

  • เสียเปรียบการดึงดูดบุคลากร

ในยุคที่พนักงานให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต และ Work-Life Balance มากขึ้น สวัสดิการอย่าง “วันหยุด” กลายเป็นปัจจัยสำคัญ ในการตัดสินใจเลือกทำงานกับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง หากบริษัทไม่มีการจัดสรรวันหยุดที่เหมาะสม หรือไม่ได้ให้สิทธิประโยชน์ ที่เทียบเท่าตามมาตรฐานของตลาดแรงงาน 

อีกทั้งองค์กรจะเสียเปรียบ ในการแข่งขันกับบริษัทอื่น ที่มีนโยบายดูแลพนักงานชัดเจนและจริงใจ ส่งผลให้ไม่สามารถดึงดูด หรือรักษาบุคลากรคุณภาพไว้ได้

กฎหมายแรงงาน วันหยุด

รู้ไว้! กฎหมายแรงงานวันหยุด จัดยังไงให้ลูกจ้างแฮปปี้ ?

การกำหนดวันหยุดประจำปี ไม่ใช่เพียงแค่การปฏิบัติตามกฎคุ้มครองหมายแรงงานเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในด้านความสุขของพนักงานโดยตรง เพราะการบริหารจัดการวันหยุดอย่างเหมาะสม จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน สำหรับฝ่าย HR หรือเจ้าของกิจการ ต้องการกำหนดวันหยุด ที่ช่วยให้พนักงานแฮปปี้มากยิ่งขึ้น ก็สามารถเริ่มต้นได้จาก 4 แนวทางที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้

  1. ใช้วันหยุดร่วมกับวันหยุดราชการ

แนวทางแรก ควรเลือกพิจารณาให้วันหยุดประจำปีของบริษัท ให้สอดคล้องกับวันหยุดราชการ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อป้องกันความสับสน และลดความรู้สึกไม่เท่าเทียม ระหว่างพนักงานเอกชนกับข้าราชการ อีกทั้งยังช่วยให้พนักงาน สามารถวางแผนการท่องเที่ยว หรือเดินทางร่วมกับครอบครัว และเพื่อนได้สะดวกมากขึ้น

  1. เพิ่มวันหยุดพิเศษ

แม้กฎหมายคุ้มครองแรงงานวันหยุดกำหนดให้มีไม่น้อยกว่า 13 วันต่อปี รวมวันแรงงานแห่งชาติ แต่บริษัทสามารถเพิ่มวันหยุดพิเศษ เพื่อแสดงความใส่ใจต่อพนักงาน เช่น วันเกิดของพนักงาน หรือวันหยุดเฉพาะกิจในโอกาสพิเศษ อย่างวันตรุษจีน วันคริสต์มาส หรือวันฮารีรายอ ช่วยให้พนักงานรู้สึกดีมากยิ่งขึ้น

  1. ไม่พลาดวันหยุดยาว

การจัดวันหยุดให้ต่อเนื่องกันในช่วงเทศกาล เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ หรือวันหยุดชดเชยต่าง ๆ เพื่อสร้าง “Long Weekend” สามารถช่วยให้พนักงานได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และช่วยรีชาร์จพลังงานกลับมาได้ โดยสามารถพิจารณาวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดชดเชย ตามปฏิทินวันหยุดราชการ เพื่อให้เกิดวันหยุดยาว

  1. เปิดรับความคิดเห็นจากพนักงาน

ด้วยรูปแบบการทำงาน และวัฒนธรรมของแต่ละองค์กรมีความแตกต่างกัน ดังนั้น การจัดวันหยุดจึงควรยืดหยุ่น และเหมาะสมกับบริบทของแต่ละธุรกิจ ผ่านการสอบถามความเห็นของพนักงานเกี่ยวกับวันหยุด หรือทำแบบสำรวจความพึงพอใจ จะช่วยให้องค์กรสามารถออกแบบตารางวันหยุดที่ตอบโจทย์จริง และพนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมในนโยบายของบริษัท

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับการพาทำความรู้จักกฎหมายคุ้มครองแรงงานวันหยุด หวังว่าจะช่วยให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งการกำหนดวันหยุดต้องไม่ทำให้พนักงานเสียสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับ และควรสอดคล้องกับกฎหมายแรงงานอย่างเคร่งครัด รวมถึงการจัดวันหยุดอย่างใส่ใจ ไม่ใช่เพียงแค่หยุดให้ครบ ตามกฎหมายเท่านั้น แต่ควรคำนึงถึงความสมดุลในการทำงาน และการใช้ชีวิตของพนักงานด้วย

สุดท้ายนี้ หากคุณต้องการเครื่องมือช่วยบริหารวันหยุด และเวลาเข้าออกของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืม Cloud-TA ระบบ Time & Attendance ออนไลน์ ที่ช่วยให้การจัดการข้อมูลพนักงานสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Website: https://cloud-ta.com/

Email: cloud-ta@innova.co.th

Tel: 091-717-5499, 092-273-1760 (Sale)

Line: @Cloud-TA