ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ภาษี คือ ระบบที่รัฐจัดเก็บเงินจากประชาชน เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในภาษีที่หลายคนเริ่มได้ยินเมื่อเริ่มทำงาน คือ “ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา”

ดังนั้น สำหรับใครที่มีรายได้ ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของกิจการ ก็ควรทำความเข้าใจภาษีประเภทนี้ให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถวางแผนการเงิน และยื่นภาษีได้อย่างถูกต้อง ในบทความนี้ Cloud-TA ขอชวนทุกคนมาทำความเข้าใจ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบบง่าย ๆ ภายใน 5 นาที ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกัน

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คืออะไร ? และใครบ้างต้องเสียภาษี

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ภาษีประเภทหนึ่งในกลุ่มภาษีทางตรง ซึ่งจัดเก็บจากบุคคลทั่วไป ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะจัดเก็บเป็นรายปี และให้ผู้มีรายได้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี ในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป

ทั้งนี้ ผู้ที่มีรายได้ไม่สามารถอ้างว่า ไม่รู้ หรือไม่เข้าใจ ได้ เพราะการยื่นภาษี ถือเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่ทุกคนต้องปฏิบัติ หากมีรายได้เข้าเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยบุคคลที่เข้าข่ายต้องเสียภาษี ได้แก่ บุคคลธรรมดา, ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี, ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล และกองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง

เช็กระดับ รายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษี และต้องเสียเท่าไหร่ ?

การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทยนั้น ใช้หลักการคิดแบบ “ภาษีอัตราก้าวหน้า” หรือภาษีแบบขั้นบันได โดยมีการแบ่งช่วงของรายได้สุทธิ และกำหนดอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น ตามแต่ละช่วงรายได้ ซึ่งหมายความว่า ยิ่งมีรายได้สุทธิมาก อัตราภาษีที่ต้องเสีย ก็จะสูงขึ้นตามลำดับ โดยสูตรคำนวณภาษีเบื้องต้น คือ

รายได้สุทธิ = รายได้ทั้งปี – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน

เมื่อได้รายได้สุทธิแล้ว จึงนำไปคำนวณภาษีตามช่วงอัตราภาษี ดังนี้

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

เมื่อเช็กระดับการจ่ายเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบบขั้นบันได ตามสูตรเบื้องต้นแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือ การคำนวณภาษี ตามช่วงอัตราภาษี โดย Cloud-TA ได้รวบรวมวิธีการคำนวณภาษี ตามเรตเงินได้สุทธิมาให้ทุกคนแล้ว เพื่อให้การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในช่วงปลายปีเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ดังนี้

ฐานเงินเดือน 30,000 บาท/เดือน

ผู้ที่มีฐานเงินเดือน 30,000 บาท/เดือน เมื่อคำนวณเงินได้สุทธิต่อปี จะอยู่ที่ 360,000 บาท ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 เสียภาษีไม่เกิน 2,050 บาท โดยคิดเป็นสัดส่วน 0.57% ของรายได้ตลอดทั้งปี โดยการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถคำนวณตามช่วงอัตราภาษีขั้นบันได ดังนี้

  • รายได้รวมต่อปี 30,000 x 12 = 360,000 บาท จะต้องเสียภาษีร้อยละ 5
  • หักค่าลดหย่อนประจำปี เช่น ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่าง ๆ 60,000 บาท จะเหลือเงินได้สุทธิประมาณ ​191,000 บาท
  • เมื่อรวบรวมรายได้ต่อปี และเงินหักค่าลดหย่อนแล้ว สามารถคำนวณภาษีได้ตามสูตร (191,000-150,000) x 5% = 2,050 บาท
  • ดังนั้น จะต้องเสียภาษีทั้งสิ้น 2,050 บาท/ปี

ฐานเงินเดือน 50,000 บาท/เดือน

ผู้ที่มีฐานเงินเดือน 50,000 บาท/เดือน เมื่อคำนวณเงินได้สุทธิต่อปี จะอยู่ที่ 600,000 บาท ซึ่งจะยังอยู่ที่ขั้นบันไดภาษีก้าวหน้าในอัตรา 10% และเสียภาษีไม่เกิน 20,600 บาท โดยคิดเป็นสัดส่วน 3.43% ของรายได้ตลอดทั้งปี โดยการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถคำนวณตามช่วงอัตราภาษีขั้นบันได ดังนี้

  • รายได้รวมต่อปี 50,000 x 12 = 600,000 บาท
  • หักค่าลดหย่อนประจำปี เช่น หากหักค่าลดหย่อนได้ประมาณ 100,000 บาท จะมีเงินได้สุทธิประมาณ 500,000 บาท
  • คำนวณตามฐานภาษี 
    150,001-300,000 = 5% ของ 150,000 = 7,500 บาท
    300,001-500,000 = 10% ของ 200,000 = 20,000 บาท
  • ดังนั้น จะต้องเสียภาษีทั้งสิ้น 27,500 บาท/ปี

ฐานเงินเดือน 80,000 บาท/เดือน

หากคุณมีฐานเงินเดือน 80,000 บาท/เดือน เมื่อคำนวณเงินได้สุทธิต่อปี จะอยู่ที่ 960,000 บาท ซึ่งจะต้องเสียภาษีตามขั้นบันได ในอัตรา 20% ซึ่งจะเสียภาษีไม่เกิน 73,200 บาท โดยคิดเป็นสัดส่วน 7.63% ของรายได้ตลอดทั้งปี ดังนั้น การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี สามารถคำนวณตามช่วงอัตราภาษีขั้นบันได ดังนี้

  • รายได้รวมต่อปี 80,000 x 12 = 960,000 บาท
  • หักลดหย่อนประจำปี เช่น หากลดหย่อนได้ประมาณ ​100,000 บาท จะมีเงินได้สุทธิประมาณ 860,000 บาท
  • คำนวณเงินตามฐานภาษี
    150,001-300,000 = 5% ของ 150,000 = 7,500 บาท
    300,001-500,000 = 10% ของ 200,000 = 20,000 บาท
    500,001-750,000 = 15% ของ 250,000 = 37,500 บาท
    750,001-860,000 = 20% ของ 250,000 = 50,000 บาท
  • ดังนั้น จะต้องเสียภาษีทั้งสิ้น 115,000 บาท/ปี

ฐานเงินเดือน 100,000 บาท/เดือน

ในกรณีของผู้ที่มีฐานเงินเดือน 100,000 บาท/เดือน เมื่อคำนวณเงินได้สุทธิต่อปีอยู่ที่ 1,200,000 บาท ซึ่งจะต้องเสียภาษีขั้นยันได ในอัตรา 25% และเสียภาษีไม่เกิน 122,750 บาท โดยคิดเป็นสัดส่วน 10.24% ของรายได้ตลอดทั้งปี จัดเป็นช่วงเดือที่ค่าภาษีทะลุ 10% ของรายได้ตลอดทั้งปี ดังนั้น การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี สามารถคำนวณตามช่วงอัตราภาษีขั้นบันได ดังนี้

  • รายได้รวมต่อปี 100,000 x 12 = 1,200,000 บาท
  • หักลดหย่อนภาษีประจำปี เช่น หากลดหย่อนได้ประมาณ​ 100,000 บาท จะมีเงินได้สุทธิประมาณ 1,100,000 บาท
  • คำนวณเงินตามฐานภาษี
    150,001-300,000 = 5% ของ 150,000 = 7,500 บาท
    300,001-500,000 = 10% ของ 200,000 = 20,000 บาท
    500,001-750,000 = 15% ของ 250,000 = 37,500 บาท
    750,001-860,000 = 20% ของ 250,000 = 50,000 บาท
    1,000,001-1,100,000 = 25% ของ 100,000 = 25,000 บาท
  • ดังนั้น จะต้องเสียภาษีทั้งสิ้น 140,000 บาท/ปี

อย่างไรก็ตาม การจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทย จะใช้วิธีการคำนวณแบบ “ขั้นบันได” ซึ่งหมายความว่า รายได้ที่ได้รับจะถูกแบ่งออกเป็นช่วง ๆ ตามอัตราภาษีที่กำหนดไว้ในแต่ละขั้น จากนั้นจะนำภาษีที่ต้องชำระในแต่ละช่วงรายได้มารวมกัน เพื่อคำนวณเป็นยอดภาษีทั้งหมดที่ต้องจ่ายจริง

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

สำรวจ รายได้แบบไหน ? จำเป็นต้องเสีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

การทำความเข้าใจว่า ใครมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราวางแผนการเงินได้อย่างถูกต้อง โดยทั่วไปรายได้ที่ต้องนำมาคำนวณภาษี มีหลากหลายประเภท ซึ่งกฎหมายได้แบ่งประเภทของเงินได้ไว้ทั้งหมด 8 ประเภท ดังนี้

  1. เงินได้จากการจ้างแรงงาน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส หรือค่าล่วงเวลา
  2. เงินได้จากหน้าที่ หรือตำแหน่งงาน เช่น ค่าธรรมเนียม ค่านายหน้า หรือค่าคอมมิชชัน
  3. เงินได้จากการรับจ้างทั่วไป เช่น ฟรีแลนซ์ หรือผู้รับเหมา
  4. เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน เช่น บ้าน ที่ดิน หรือรถยนต์
  5. เงินได้จากทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ค่าลิขสิทธิ์ หรือสิทธิบัตร
  6. เงินปันผล ดอกเบี้ย และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุน
  7. เงินได้จากการประกอบกิจการพาณิชย์ การเกษตร หรืออุตสาหกรรม
  8. เงินได้อื่น ๆ ที่ไม่เข้าประเภท 1-7 เช่น รางวัลที่ได้จากการประกวด หรือเงินได้จากการขายทรัพย์สิน

ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ?

การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นหน้าที่ประจำปี ที่ผู้มีรายได้ทุกคนควรให้ความสำคัญ โดยสามารถยื่นได้ทั้งแบบยื่นด้วยตนเอง ที่สำนักงานสรรพากร หรือผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร โดยผู้มีรายได้ จำเป็นต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  1. เอกสารแสดงรายได้ต่าง ๆ : เช่น หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) จากนายจ้างหรือผู้ว่าจ้าง และรายได้เงินอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น คอมมิชชัน รายได้จากการเช่า หรือเงินปันผล
  2. รายการลดหย่อนภาษี: เช่น เอกสารค่าใช้จ่ายลดหย่อนส่วนตัว, เอกสารลดหย่อนบุตร, ใบเสร็จรับเงินค่าประกันต่าง ๆ หรือใบเสร็จเงินจากการบริจาค
  3. เอกสารอื่น ๆ : เช่น เลขบัญชีธนาคาร สำหรับกรณีขอคืนภาษี

สำหรับเจ้าของกิจการที่กำลังมองหาตัวช่วยในการจัดการเงินเดือน ขอแนะนำระบบ Cloud-TA ซึ่งเป็นระบบบริหารเงินเดือนแบบออนไลน์ที่ครบวงจร และใช้งานง่าย รองรับการใช้งานทุกเครื่องมือที่ สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

เปิดแบบฟอร์มยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีกี่รูปแบบ ?

สำหรับการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้มีรายได้จำเป็นต้องเลือกกรอก แบบฟอร์ม ให้ตรงกับประเภทของรายได้ เพื่อให้การยื่นภาษีถูกต้องตามกฎหมาย โดยแบบฟอร์มจะแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ดังนี้

  1. ภ.ง.ด. 90

ภ.ง.ด. 90 ใช้สำหรับผู้ที่มีรายได้จากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน เช่น รายได้จากการประกอบธุรกิจ วิชาชีพอิสระ ค่าเช่า ค่าลิขสิทธิ์ หรือรายได้จากการลงทุนอื่น ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้หลายทาง นอกเหนือจากงานประจำ หรือเงินเดือน

  1. ภ.ง.ด. 91

ภ.ง.ด. 91 ใช้สำหรับผู้ที่มีรายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว โดยต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย และมีถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย เหมาะกับผู้มีรายได้ประจำ ที่ไม่มีรายได้อื่นเพิ่มเติม

  1. ภ.ง.ด. 93

ภ.ง.ด. 93 ใช้ในกรณีที่ต้องการยื่นแบบแสดงรายการภาษีล่วงหน้า ก่อนถึงกำหนดยื่นภาษีตามปกติ เช่น ผู้ที่มีเหตุผลจำเป็น ต้องเดินทางไปต่างประเทศ หรือต้องการปิดบัญชีภาษีก่อนกำหนด

  1. ภ.ง.ด. 94

ภ.ง.ด. 94 ใช้สำหรับการยื่นภาษีครึ่งปี หรือการยื่นภาษีกลางปีของผู้ที่มีรายได้ จากการประกอบธุรกิจหรือวิชาชีพอิสระ โดยไม่รวมรายได้จากเงินเดือน

  1. ภ.ง.ด. 95 

ภ.ง.ด. 95 เป็นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ออกแบบมา เพื่อใช้สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิลดอัตราภาษีเงินได้โดยเฉพาะ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือผู้มีรายได้จากเงินบำนาญ เป็นต้น

สุดท้ายนี้ หากองค์กรที่ต้องการอัปเกรดระบบบันทึกเวลาเข้า-ออกงาน หรือจัดเก็บข้อมูลทางการเงินของพนักงาน เพื่อนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขอแนะนำ Cloud-TA ระบบบันทึกเวลาเข้าออก และควบคุมการเปิดประตูที่ทำงานบนระบบคลาวด์ โดยระบบของเรามีฟังก์ชันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การยื่นคำร้องขอวันลา ข้อมูลสลิปเงินเดือน และการบันทึกข้อมูลพนักงานไว้ในที่เดียว หากสนใจติดต่อได้ที่

Website: https://cloud-ta.com/

Email: cloud-ta@innova.co.th

Tel: 091-717-5499, 092-273-1760 (Sale)

Line: @Cloud-TA